บทกวีนิพนธ์ " หมานำเกวียน"
ตะขลุกตะขลักสะบักสะบอมกระมอมกระแมม
เมื่อไหร่หลังคาจะโผล่จะแพลม
หร็อมแหร็มรำไรสักหลังสองหลัง
เจียนจะถึงครึ่งของครึ่งของทางหรือยัง
เกวียนกระแทกก้นแทบจะพัง
ลุงตอบว่ายังยังอีกหน่อยอีกร้อยหมาเยี่ยว
หมาตามเกวียนตามทางที่เคยเทียว
แวะดมดมยิ้มยิ้มแล้วก็เยี่ยว
ตะกุยกลบแล้วกรูเกรียวไปล่วงหน้าเป็นหมานำ
ครูคนใหม่บ่นอะไรอยู่พร่ำพล่าม
มือพลางประคองรองเท้าคู่งาม
ด้วยความวิตกสงสารมันทั้งคู่
หมานำวัว วัวนำเกวียน เกวียนนำครู
นำครูไปนำคนที่คอยครูอยู่
เด็กน้อยคอยดูว่ารองเท้าครูจะหรูยังไง
ถึงจะนานแต่หมู่บ้านก็อยู่ข้างหน้า
หมานำเกวียนยังเริงร่า
แต่ครูส่ายหน้าทำท่าเหมือนจะร้องไห้
ครูบ่นซ้ำซ้ำว่ากรรมของกูกรรมของกู
ลุงขับเกวียนใจเหี่ยวหดหู่
น้ำใจของครูสู้หมาของกูก็ยังไม่ได้
เดี๋ยวพ่อไล่ลงเสียที่หัวดงทับทิม
ให้เดินสักสิบห้าหมายิ้มซะเป็นไง
(หน้า ๓๙-๔๐)
-เนื้อหากล่าวถึงเรื่องอะไร / มีใครบ้าง
-วรรณศิลป์ในการใช้ภาษาเป็นอย่างไร
-ข้อคิดที่ได้คืออะไรบ้าง